ชั้น เลขที่

"ช้างแอฟริกากับช้างเอเชีย (ซึ่งฝรั่งเรียกว่าช้างอินเดีย) แม้เป็นช้างด้วยกันและขนาดเท่าๆ กัน น่าจะเป็นช้างต่างชนิดกันมาแต่เดิม ด้วยรูปร่างผิดกันหลายอย่าง จะว่าแต่ที่พึงสังเกตเห็นได้ง่าย ช้างแอฟริกาใบหูใหญ่กว่าช้างเอเชียมากอย่างหนึ่ง และยังสันหลังอ่อนไม่ก่งเหมือนช้างเอเชียอีกอย่างหนึ่งเป็นต้น" ข้อความนี้เป็นการเขียนแบบใด

"ฉันยังจำได้เมื่อไปยุโรปครั้งแรกใน พ.ศ. ๒๔๓๔ พระเจ้าไกเซอร์วิลเฮล์มที่ ๒ ประเทศเยอรมนี เคยตรัสถามฉันว่า ในเมืองไทย ห้ามยิงช้างหรือไม่ห้าม ฉันทูลว่าไทยถือว่าช้างเป็นสัตว์มีคุณ ในเมืองไทยห้ามมิให้ฆ่าช้างด้วยประการอย่างหนึ่งอย่างใดมาแต่ดึกดำบรรพ์แล้ว" ข้อความนี้เป็นการเขียนแบบใด

"ถึงเมืองสมุทปราการที่ด่านพัก จอดสำนักประเดี๋ยวใจก็ไก่ขัน ไม่มีมุ้งยุงชุมต้องสุมควัน จนสุริยันเรืองรองผ่องอำไพ" คำประพันธ์นี้ใช้การเขียนแบบใด

"ร้อนรำพึงถึงสมรนอนไม่หลับ จนดาวดับลับหล้าขอบฟ้าเหลือง เปนเปลวปลาบราวกับทาบทองประเทือง พินิจเบื้องบูรทิศวิจิตรงาม" คำประพันธ์นี้เป็นการเขียนแบบใด

"นกภูหงอนหัวน้ำตาลเเดง เป็นนกที่มีขนาดเล็กมาก (๑๔ ซม.) หงอนขนบนหัวมีขนาดสั้น ลำตัวผอมบาง ด้านบนลำตัวมีขีดลายสีขาว ขนบริเวณหูสีน้ำตาลแดงมีลายขัดสีขาว ขนปลายหางสีขาว และด้านล่างลำตัวสีขาว" ข้อความนี้ใช้การอธิบายด้วยวิธีใด

"เมื่อเราหาเงินหาทองได้ เราก็ควรใช้ให้มันเป็นประโยชน์ ใช้สำหรับตนบ้าง กินอยู่ เครื่องนุ่งห่ม จัดบ้านจัดเรือนตามสมควรแก่ฐานะ เหลือจากนั้นเราก็แบ่งสรรปันส่วนบำเพ็ญสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่เพื่อนมนุษย์ ช่วยสร้างสิ่งที่ควรสร้าง เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล สถานสงเคราะห์คนชรา เป็นต้น" ข้อความนี้อธิบายด้วยวิธีใด

"เราอยู่สบาย มีทรัพย์สินเงินทองจับจ่ายใช้สอย เราก็นึกถึงความลำบากของคนเหล่านั้นบ้าง โดยช่วยอนุเคราะห์เกื้อกูลเขาตามฐานะ หรือว่าเรามีปัญญา มีสมอง มีเงินทอง เเทนที่จะนั่งให้เขากู้ท่าเดียว เราก็เอาไปหมุนสร้างโรงงานประเภทต่างๆ ก็เท่ากับสงเคราะห์เพื่อนมนุษย์เหมือนกัน เพราะคนที่ยากจนจะได้เข้าไปอาศัยเป็นกรรมกรรับใช้ในโรงงาน ทำให้การเงินหมุนเวียน" ข้อความนี้อธิบายด้วยวิธีใด

"นำกระทะตั้งไฟใส่น้ำมันพอร้อนใส่ต้นหอมซอย กระเทียมสับผัดจนหอม นำไก่ กุนเชียง และเห็ดหอม นำถ้วยผสมน้ำซุปไก่ น้ำเห็ดหอม ซีอิ๋วดำ น้ำมันหอย น้ำมันงา พริกไทยขาว เทลงในถ้วยข้าว แล้วนำไปนึ่งจนกระทั่งสุก พอสุกนำถ้วยคว่ำลงเอาส่วนที่มีไก่ กุนเชียง เห็ดหอมไว้ข้างบน แต่งหน้าด้วยผักชี ทานกับเเตงกวา พริกชี้ฟ้าเขียวหั่น และต้นหอม" ข้อความนี้อธิบายด้วยวิธีใด

"...การจะดูแลต้นส้มที่รักสักต้นให้ผลิดอกออกผลได้ดั่งใจไม่ต่างอะไรกับการอุ้มชูดูแลเด็กอ่อน ใช่เพียงเพราะต้นส้มใช้เวลาตั้งท้อง นับแต่วันที่ผลิดอกจนถึงวันที่เก็บผลได้กินเวลาราวเก้าเดือนเหมือนกับคน แต่ส้มยังมีความละเอียดอ่อนกับน้ำ ดิน อากาศ รวมไปถึงแมลง จึงต้องทะนุถนอมดุจเดียวกับทารก..." ข้อความนี้อธิบายด้วยวิธีใด

"เขาใช้แขนยันพื้นดิน อาการเหนื่อยอ่อน กลิ่นน้ำฝนบนใบหญ้าและกลิ่นไอดินโชนเข้าจมูกวาบหวิว อยากให้มีใครซักคนผ่านมาพบ เพื่อพาเขากลับไปหาหมอในหมู่บ้าน มดหลายตัวเดินสวนขบวนผ่านไปมา มันไม่มีทีท่าจะสนใจเขาเลยแม้แต่น้อย เขามองดูมันอย่างเลื่อนลอย ทำไมมันจึงเฉยเมยกับฉัน มันคงรู้แน่ ฉันอยากให้มันเป็นคนจริงๆ ฉันจะต้องกลับบ้านให้ได้ เขาคิดพลางเพ่งมองดูยอดสนของหมู่บ้าน หาดเสี้ยวเห็นอยู่ไม่ไกล ดวงอาทิตย์สีแดงเข้มกำลังคล้อยลงเหนือยอดไม้ทางทิศตะวันตก" ข้อความนี้เป็นการเขียนในลักษณะใด